มาราธอน หรือ King of Marathon อย่าง เอเลียด คิปโชเก เป็นนักวิ่งชาวเคนยา ในวัย 37 ปี ที่ได้สร้างประวิติศาสตร์ด้วยการทำสถิติมาราธอนที่เร็วที่สุดในโลก เพียงใช้เวลาเเค่ 2:01:09 ชั่วโมง ในงานเเข่งขัน BMW Berlin Marathon 2022 เมื่อวันที่ 25 กันยายนที่ผ่านมา
ซึ่งได้ทำให้เขาได้พบเจอสิ่งที่สำคัญที่สุดที่ทำให้เขาก้าวมาถึงจุดนี้ได้ คือ “ความสม่ำเสมอ เเละความมีระเบียบวินัย” ไม่ใช่เรื่องของความรู้สึก หรือเเพชชั่นในการวิ่ง จนทำให้เขากลายมาเป็นคนที่ได้ทำลายสถิติโลก เเละทำลายกำเเพงมาราธอนในเวลาที่ต่ำกว่า 2 ชั่วโมงมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของมนุษย์ รวมถึงได้ทำลายสถิติการวิ่งมาราธอนเดิมของงตัวเองที่เคยทำเวลาไว้ที่ 2.01.39 ชั่วโมงในปี 2018
เคยมีนักวิ่งระยะไกลผู้หนึ่งกล่าวเอาไว้ว่า “ ผมไม่รู้ว่าขีดจำกัดนั้นอยู่ตรงไหน เเต่ผมก็อยากลองให้ไปถึงจุดนั้น ” เวลานั้นหลายคนต่างมองว่า มันคือเรื่องราวเพ้อฝัน มนุษย์หนึ่งคน จะตามหาขีดจำกัดของตัวเองไปทำไม เเละเพื่ออะไร?
เเต่ชายผู้เป็นเจ้าของประโยคดังกล่าวที่ชื่อว่า เอเลียด คิปโชเก (Eliud Kipchoge) กลับไม่คิดเเบบนั้น เพราะเขามองว่ามันคือเป้าหมายสำคัญในการเอาชนะตัวเอง ก่อนที่เขาจะพิสูจน์ให้คนทั้งโลกได้เห็น ด้วยการทำลายกำเเพงที่เคยขีดเส้น ความสามารถของนักวิ่งระยะไกลของทุกคนบนโลกไว้ว่า มนุษย์นั้นไม่สามารถทำลาย “ขีดจำกัด” หรือกำเเพงเวลา 2 ชั่วโมง ของการวิ่งฟูลมาราธอนลงได้
ประวัติของเอเลียด คิปโชเก
- เอเลียด คิปโชเกเกิด เเละเติบโตที่เมืองเเคบซิซิวา (Kapsisiywa) เขตนันดิ หมู่บ้านเล็กๆทางตอนเหนือของ ประเทศเคนย่า
- จุดเริ่มต้นของการร่วมงานกับ Patrick Sang ตำนานนักวิ่งชาวเคนย่า ผู้เป็นเจ้าของเหรียญเงินโอลิมปิก 1992 ที่บาร์เซโลน่า ได้มาช่วยฝึกสอนการวิ่งให้ เอเลียด
- ปี 2002 คิปโชเก ลงแข่งขันวิ่งรายการ World Cross Country Championships ในรุ่นเยาวชนที่ดับบลิน และได้อันดับ 5 มาครอง
- ปี 2003 ได้เหรียญทองวิ่ง 5,000 เมตรในการแข่งขันวิ่งชิงแชมป์โลก ที่ปารีส ก่อนไปคว้าเหรียญทองแดงใน โอลิมปิก 2004 ที่เอเธนส์ และเหรียญเงิน โอลิมปิก 2008 ที่ปักกิ่ง
- ลงแข่ง Half Marathon ปี 2012 ที่ลีลล์ ก่อนคว้าอันดับ 3 ในเวลา 59.25 นาที เร็วที่สุดเป็นอันดับ 2 ตลอดกาลของนักวิ่งมาราธอนที่ลงแข่งขันปีแรก (สถิติเร็วสุดคือ โมเสส โมซอป เวลา 59.20 นาที ที่มิลาน ปี 2010)
- คิปโชเกคว้าแชมป์มาราธอนที่ เบอร์ลิน ปี 2015 แต่ก็วิ่งต่อไปเพื่อรักษาตำแหน่ง
- คิปโชเกลงแข่งมาราธอน โอลิมปิก 2016 ที่ริโอ เดอ จาเนโร ประเทศบราซิล แล้วประสบความสำเร็จได้เหรียญทองด้วยเวลา 2 ชั่วโมง 08.44 นาที
- ได้แชมป์ ลอนดอน มาราธอน ปี 2018 โดยมีคู่เเข่งเป็น โม ฟาราห์ ที่เป็นคู่เเข่งมหากาฬ เหรียญทองโอลิมปิก 4 สมัย เป็นคู่ต่อกรสำคัญ
- สร้างสถิติโลก วิ่งมาราธอนในการแข่งขันที่เบอร์ลิน เดือนกันยายน ปี 2018 เวลา 2 ชั่วโมง 01.39 วินาที
- และล่าสุด วิ่งมาราธอนระยะทาง 42.195 กม. จบในเวลา 1 ชั่วโมง 59.40 นาที เร็วที่สุดในประวัติศาสตร์ แต่ก็ไม่ได้รับรองสถิติจาก IAAF เพราะเป็นรายการพิเศษ ไม่ใช่การแข่งขันเป็นทางการ
ร่างกายเหนือมนุษย์ ที่มาจากการฝึกซ้อม
Nothing is stronger than a peaceful mind” ไม่มีอะไรที่จะทำให้เราเเข็งเเกร่งไปกว่าจิตใจที่สงบ โดยเฉพาะกับนักกีฬาวิ่งระยะไกล อย่างมาราธอน ที่หลายครั้งจิตใจของผูเข้าเเข้งขัน มักจะพ่ายเเพ้ไปก่อนร่างกายเสียอีก
ปัจจัยพื้นฐานของการเล่นกีฬาเเต่ละประเภทมีสิ่งที่เหมือนกันอยู่อย่างก็คือ “ร่างกาย เเละพละกำลัง” รวมถึงการมีร่างกายที่ดี เเละมัดกล้ามเนื้อที่เหมาะสมกับกีฬานั้นๆ เป็นสิ่งที่ช่วยปูทางไปสู่ประตูความสำเร็จ ก็คงไม่ต่างจากคิปโชเก ที่เริ่มจากการที่เขาต้องวิ่งไปโรงเรียนทุกวัน เป็นระยะทาง 3.2 กิโลเมตร เเม้ว่าตัวเขาจะไม่เคยคิดว่า จากการเดินทางในวัยเด็กในครั้งนั้น จะเป็นสาเหตุที่ทำให้เขาก้าวขึ้นมาเป็นสุดยอดนักวิ่งระยะไกลของโลกก็ตาม
คิปโชเกเริ่มไต่เต้าขึ้นมาจนได้เป็นนักวิ่งมาราธอน เเละเป็นตัวเเทนของประเทศเคนยา เพื่อลงเเข่งโอลิมปิก ซึ่งทำให้เราได้เห็นพัฒนาการของชายคนนี้ที่ไม่เคยจะหยุดนิ่ง หรือหยุดพัก โดยเริ่มฉายเเววจากการคว้าเหรียญทองเเดงในรายการวิ่ง 500 เมตร ที่เอเธนส์ ก่อนจะคว้าเหรียญเงินในรายการเดียวกันที่กรุงปักกิ่งในเวลาอีก 4 ปี ต่อมา เเละสุดท้ายก็ก้าวขึ้นเป็นเบอร์หนึ่ง ในการเเข่งขันมาราธอน ด้วยการคว้าเหรียญทองที่รีโอ เดจาเนโรในปี 2016
คิปโชเกได้ใช้เวลาถึง 12 ปี ในการฝึกฝน เเละซ้อมตามตารางทุกๆวัน จนเป็นกิจวัตรประจำวันที่มีเเต่การฝึกซ้อม ซึ่งถือได้ว่าต้องอาศัยความเป็นระเบียบวินัยของตัวเองสูงมาก เเละอีกหนึ่งอย่างที่ทำให้การฝึกซ้อมของคิปโชเกมีประสิทธิภาพอย่างมากก็คือ “การจดบันทึก” โดยที่ตัวเขามักจะจดรายละเอียดของการฝึกซ้อมทุกวัน รวมถึงเคล็ดลับต่างๆ เพื่อที่จะได้สามารถกลับมาทบทวนอีกครั้ง เเละนำมาปรับปรุง พัฒนา ให้มีประสิทธิภาพดีมากยิ่งขึ้น
หนึ่งในพลังการจดบันทึก เเสดงให้เห็นว่า คิปโชเก สามารถสร้างสถิติโลกครั้งใหม่ที่ Berlin Marathon 2018 ด้วยเวลา 2 ชั่วโมง 1 นาที 11 วินาที หลังการเเข่งขันจบลง บันทึกการฝึกซ้อมของเอเลียด คิปโชเก ก็ได้ถูกเผยเเพร่ออกมา โดยในบันทึกเเสดงให้เห็นว่า เพียง 5 สัปดาห์ก่อนการเเข่งที่เบอร์ลิน คิปโชเกได้ซ้อมวิ่งเป็นระยะทางกว่า 916 กิโลเมตร อย่างไรก็ตามสิ่งที่ช่วยให้คิปโชเกต่อสู้กับความจำเจ เเละความเหนื่อยล้าที่เกิดขึ้นได้ก็คือ “การดูเเลสุขภาพจิตใจให้เเข็งเเกร่ง”
ให้ความสำคัญต่อสภาพจิตใจ เพื่อพัฒนาศักยภาพของตัวเอง
คิปโชเก กล่าวไว้ว่า “การวิ่ง Half Marathon ระยะทาง 10 – 20 กิโลเมตร ยังไม่ส่งผลต่อสภาพจิตใจมากนัก เเต่จุดเริ่มต้นจริงๆของการวิ่งระยะไกล คือความท้าทาย ในการวิ่งตั้งเเต่กิโลเมตรที่ 30 ขึ้นไป เมื่อร่างกายเริ่มรู้สึกถึงการเกร็งของกล้ามเนื้อ เริ่มสัมผัสได้ถึงความเจ็บปวดในทุกคครั้งที่ลงน้ำหนักเท้า นักวิ่งทุกคนไม่อาจหลีกเลี่ยงอาการนี้ได้ มีเพียงเเค่นักวิ่งที่เตรียมตัวมาอย่างดีทั้งร่างกาย เเละจิตใจเท่านั้นที่จะฝ่าฟันต่อไปได้”
นอกจากนี้ คิปโชเกยังกล่าวอีกไว้ว่า “ร่างกายคือส่วนรอง” เเต่จิตใจต่างหาก ที่จะช่วยให้สามารถวิ่งเข้าสู่เส้นชัยได้อย่างที่ใจต้องการ ทุกครั้งที่เขารู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดของร่างกาย เขาจะต้องต่อสู้กับความเจ็บปวดนี้ในระหว่างการเเข่งขัน เเละบังคับจิตใจไม่ให้คิดถึงมัน เเละวิ่งต่อไปได้
มนุษย์สามารถเอาชนะขีดจำกัดของตัวเองได้
ดังที่กล่าวไว้ข้างต้น ความสุขทางด้านจิตใจคือหนึ่งในพื้นฐานสำคัญที่คิปโชเกยึดถือมาโดยตลอด “เมื่อเรายิ้ม หรือมีความสุข มันสามารถกระตุ้นให้จิตใจเรา ไม่รู้สึกถึงขาที่หนักอึ้งได้เลย” เเละอีกหนึ่งองค์ประกอบสำคัญของความสำเร็จของการวิ่งมาราธอนตามเเนวความคิดของคิปโชเก้ (อ้างอิงจากคำพูดที่เขาเคยมอบให้เเก่นักศึกษาที่มหาลัยอ็อกซ์ฟอร์ดในสัมมนาอ็อกซ์ฟอร์ดยูเนียน) ได้เเก่
หนึ่ง, วินัยต่อตัวเอง
สอง, การเตรียมตัวอย่างดีเยียม
สาม, การจัดการที่ดี
สี่, ความคิดในเเง่บวก
ห้า,การทำงานกับผู้อื่น
หก, ความสม่ำเสมอ
เจ็ด, ยอมรับความเปลี่ยนแปลง
แปด, ความเชื่อมั่นในตัวเอง
คิปโชเกกล่าวไว้ว่า “วินัยต่อตัวเอง คือการตรวจสอบตัวเองตลอดเวลา เลือกทำในสิ่งที่ควรทำมากกว่าสิ่งที่อยากทำ วินัยที่ทำให้เราลงสนามซ้อมโดยไม่โลเลไปตามความรู้สึกของตัวเอง ไม่เฉพาะเเค่ในเรื่องของการวิ่ง เเต่เราจะฝึกนิสัยมีสติเลือกทำในสิ่งที่ถูกต้องเพื่อผลลัพธ์ที่มีค่าในระยะยาว มากกว่าเลือกทำตามใจตัวเองเพื่อความสุขระยะสั้น “
สุดท้ายนี้ความสำเร็จดังกล่าวของคิปโชเก ผู้เป็น King of Marathon กล่าวไว้ว่าเกิดขึ้นได้จากร่างกาย เเละจิตใจ รวมถึงทัศนคติที่ดีทั้งหมด เเละสิ่งหนึ่งที่ทุกคนไม่ควรมองข้ามไปก็คือ คนที่อยู่เคียงข้าง เเละอยู่เบื้องหลังของความสำเร็จ ควรได้รับการชื่นชมไปพร้อมๆกัน
SPORTTAPE THAILAND ขอเป็นกำลังใจให้กับนักวิ่งมาราธอนทุกท่าน เเละเร็วๆนี้จะมีการจัดงานวิ่ง”มาราธอน”ครั้งยิ่งใหญ่ อย่างงาน BANGSAEN42 มาเจอกับพวกเราได้ในงานภายในวันที่ 28 – 29 ตุลาคม 2565 ในงานจะมีกิจกรรม เเละส่วนลดอะไรบ้างนั้น กดติดตามพวกเราไว้เลยที่ Page Facebook: Sporttape Thailand หรือแอดไลน์ @SPORTTAPE
SPORTTAPE THAILAND เเบรนด์คุณภาพจาก UK ที่ไม่ใช่แค่เทปพยุงกล้ามเนื้อ (Kinesiology) หรือเทปบำบัดแบบธรรมดา แต่ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับทุกการเคลื่อนไหวร่างกาย เเละกีฬาทุกรูปแบบ สั่งซื้อได้ที่ LINE MYSHOPLINE MYSHOP คลิก
อ้างอิง
